ผู้เขียน หัวข้อ: อนามัยโลกเตือนระวังภัย"โรคจิตเสื่อม"  (อ่าน 901 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9760
    • ดูรายละเอียด
องค์การอนามัยโลกเรียกร้องประชาคมโลก จัดอันดับโรคจิตเสื่อมเป็นวิกฤตด้านสาธารณสุข

รายงานขององค์การอนามัยโลก (ฮู) ร่วมกับสมาพันธ์อัลไซเมอร์สากล (เอดีไอ) เรียกร้องให้รัฐบาลและผู้บริหารระดับนโยบาย จัดลำดับความสำคัญของโรคจิตเสื่อม ให้อยู่ในประเด็นสำคัญอันดับต้นๆในด้านอนามัยโลก พร้อมให้มุมมองอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับผลกระทบจากโรคจิตเสื่อมที่เกิดขึ้นทั่วโลก นอกเหนือไปจากวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุดและกรณีศึกษาจากทั่วโลก

ทั้งนี้ ฮู ได้จัดทำรายงานด้วยการรวบรวมข้อมูลที่ครอบคลุม ซึ่งรวมไปถึงข้อมูลจากกลุ่มประชาชน ที่มีรายได้ปานกลาง-ต่ำในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่มีความยากลำบากในการเก็บรวบรวมข้อมูล นับเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาในระดับโลกที่แท้จริง

รายงานในหัวข้อ “Dementia: A Public Health Priority” เป็นรายงานที่ฮูและเอดีไอ ได้รวบรวมข้อมูลจากคณะผู้เชี่ยวชาญ 4 กลุ่ม นำโดยทีมนักวิจัยจากสถาบันจิตเวชศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยคิง คอลเลจ ในลอนดอน และสถาบันวิทยาศาสตร์ประสาทวิทยาในอินเดีย

ดร.เชคฮาร์ แซกซีนา ผู้อำนวยการฝ่ายสุขภาพจิตและการใช้สารในทางที่ผิดของฮู กล่าวว่า "ปัจจุบัน มีเพียง 8 ประเทศ จากสมาชิกฮู ทั้งหมด 194 ประเทศที่ได้ทำแผนแห่งชาติรองรับโรคจิตเสื่อมเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่อีก 2-3 ประเทศกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งเราหวังว่าประเทศต่างๆจะปฏิบัติตาม และใช้รายงานฉบับนี้เป็นบรรทัดฐานในการวางแผนและดำเนินการ"

นายมาร์ค วอร์ทแมน กรรมการผู้อำนวยการเอดีไอ กล่าวว่า ทั่วโลกจะมีผู้ป่วยโรคจิตเสื่อมรายใหม่เพิ่มขึ้นในทุกๆ 4 วินาที ระบบสาธารณสุขในปัจจุบัน ยังไม่สามารถรับมือกับการลุกลามออกไปของวิกฤตโรคจิตเสื่อมได้ ในขณะที่เราต่างก็มีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น และยังมีหลายสิ่งอย่างอย่างที่สามารถทำได้ เพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่เป็นโรคจิตเสื่อม ตลอดทั้งผู้ดูแลผู้ป่วย

การเผยแพร่รายงานฮูและเอดีไอ เป็นความต้องการของดร.ปีเตอร์ ไพออต ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขโลกและอดีตผู้อำนวยการบริหารโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ ซึ่งช่วยเปลี่ยนโรคเอชไอวี/เอดส์ จากโรคที่ไม่มีทางรักษาได้ มาเป็นโรคที่สามารถควบคุมได้ ในการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อเร็วๆ นี้ ดร.ไพออตอธิบายถึงโรคจิตเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์โดยเฉพาะว่า เป็นระเบิดเวลาที่กำลังนับถอยหลัง เมื่อพิจารณาจากจำนวนประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ผลการวิจัยของเอดีไอ มีความสอดคล้องกับรายงานของ ฮู ที่คาดว่า จำนวนประชากรที่ป่วยเป็นโรคจิตเสื่อมทั่วโลกอาจอยู่ที่ระดับ 35.6 ล้านคนในปี 2553 และอาจเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 2 เท่าในทุกๆ 20 ปี แตะที่ 65.7 ล้านคนในปี 2573 และ 115.4 ล้านคนในปี 2593

หากเปรียบเทียบระหว่างโรคจิตเสื่อมในวันนี้กับโรค เอชไอวี/เอดส์ ในปี 2523 ดร.ไพออต กล่าวว่า โลกต้องแก้ปัญหาโรคจิตเสื่อมในระดับเดียวกันอย่างเร่งด่วน “หากทั่วโลกต้องการให้มีการเรียกร้อง การเรียกร้องครั้งนี้ นับเป็นวิกฤตระดับโลก ผมยังมองไม่เห็นทางเลือกอื่นที่ดีไปกว่าการรักษาโรคอัลไซเมอร์ อย่างน้อยก็เท่ากับที่เราได้ให้ความสำคัญกับโรคเอชไอวี/เอดส์

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์  12 เมษายน 2555