ผู้เขียน หัวข้อ: “อ่าวพร้าว”ยังแย่ มีน้ำมันตกค้างสูงกว่าหาดปกติ 15 เท่า  (อ่าน 741 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9779
    • ดูรายละเอียด
 สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาฯ เผยผลตรวจสอบคุณภาพทรายเกาะเสม็ด พบชายหาดอ่าวพร้าวยังไม่ดีขึ้น มีน้ำมันตกค้างสูงกว่าหาดปกติ 15 เท่า
       
       ดร.สมภพ รุ่งสุภา จากสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยความก้าวหน้าผลงานวิจัยในโครงการสำรวจผลกระทบสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยาทางทะเล หลังปริมาณน้ำมันดิบจำนวนมากรั่วไหลจากท่อส่งน้ำมันดิบลงสู่อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยอง ในช่วงเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว(2556)
       
       ผลจากการเก็บตัวอย่างน้ำทะเลจาก 13 จุด โดยรอบทั้งจุดเกิดเหตุ บริเวณเกาะเสม็ด ชายฝั่ง และจุดที่ไกลออกไปตามที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ในเดือน ส.ค. และ พ.ย. ที่ผ่านมา พบว่าคุณภาพของน้ำทะเลที่ตรวจวัดได้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน หากมองด้วยตาจะไม่พบคราบน้ำมันหลงเหลืออยู่ในพื้นทะเล
       
       โดยผลจากการตรวจสอบปริมาณปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอนในน้ำในอ่าวระยอง เกาะเสม็ด ปากน้ำแกลง มีค่าเฉลี่ย 1.20 ไมโครกรัมต่อลิตร อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน มีเพียงบางจุดที่พบสารประกอบน้ำมันเกินค่ามาตรฐาน ถึง 9.08 ไมโครกรัมต่อลิตร คือด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะเสม็ด ระหว่างท่าเรือบ้านเพ และเกาะเสม็ด โดยปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอนที่พบคาดว่ามาจากน้ำมันที่รั่วไหลจากเรือขนส่งข้ามเกาะ
       
       แต่สำหรับผลการตรวจสอบที่อ่าวพร้าว พบปริมาณปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอนในตะกอนดินบริเวณชายฝั่งทะเลและชายหาด มีน้ำมันที่ยังคงตกค้างอยู่ที่ผิวหน้าทรายและในผิวทราย ในปริมาณมากกว่าหาดทรายปกติ(อ่าวหวาย) ถึง 15 เท่า
       
       อย่างไรก็ดีด้วยความที่ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีมาตรฐานการตรวจสอบคราบน้ำมันในผิวดิน นักวิจัยจึงไม่สามารถตอบได้ว่า ค่าดังกล่าวเกินกว่ามาตรฐานหรือไม่
       
       “จนถึงวันนี้ยังพูดได้ไม่เต็มปากว่าสถานการณ์ได้กลับคืนสู่ภาวะปกติ เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่มากระทบ ทั้งคราบน้ำมันที่มีอยู่เดิม และคราบน้ำมันที่รั่วไหลในปริมาณน้อยแต่ต่อเนื่อง แม้จะยังพบสัตว์หน้าดินอยู่บ้าง แต่ต้องยอมรับว่าไม่เหมือนเดิม ซึ่งจะต้องติดตามต่อไปในระยะยาว” ดร.สมภพกล่าว
       
       ดร.สมภพ กล่าวว่า แนวทางการกำจัดคราบน้ำมันในหาดทรายวันนี้ จำเป็นต้องบำบัดซ้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อฟื้นฟูให้กลับคืนสู่ภาวะปกติให้ได้มากที่สุด โดยสิ่งที่นักวิจัยกำลังศึกษาก็เพื่อยืนยันว่ายังมีคราบน้ำมันหลงเหลืออยู่หรือไม่ น้ำมันสลายตัวได้จริงหรือเปล่า ตลอดจนการเปลี่ยนแปลง และผลกระทบต่อระบบนิเวศชายฝั่งในระยะยาว
       
       “เกาะเสม็ดในวันนี้ ยังคงต้องการการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง ส่วนในระยะยาวต้องป้องกัน ณ จุดเกิดเหตุ และจุดที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด ตลอดจนฝึกซ้อมเจ้าหน้าที่ และนำมาตรการป้องกันที่มีอยู่มาใช้เมื่อเกิดเหตุการณ์จริง โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้นับเป็นกรณีศึกษาที่ดีสำหรับประเทศไทย” ดร.สมภพ กล่าว

ASTVผู้จัดการออนไลน์    21 กุมภาพันธ์ 2557