บทวิเคราะห์ ร่าง...พรบ คุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากการบริการสาธารณสุข พ.ศ.....ฉบับคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ชุดที่ถูกคสช.ใช้ อำนาจตาม มาตรา 44 ให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่และพ้นจากตำแหน่งไปเมื่อวันที่ 15 ก.ค.2558 แล้ว
ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้ถูกผลักดันโดยกรมสนับสนุนบริการสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข โดยผู้เข้าประชุมประกอบด้วย รมว.สาธารณสุข รมช สาธารณสุข รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการ (ผู้ชี้แจงแทนฝ่ายที่ผลักดันร่างกฎหมาย) นิติกร ส่วนฝ่ายที่คัดค้านประกอบด้วยนายกแพทยสภา ผู้ช่วยเลขาแพทยสภาด้านกฎหมาย 2 ท่าน กรรมการแพทยสภาและโฆษกแพทยสภา
(เมื่อ 29 ก.ค. 2558)
เนื้อหาที่คัดค้านพอจะสรุปเป็นหลักการใหญ่ๆได้ดังต่อไปนี้
1) เป็นการเสนอร่างกฎหมายเป็นชุดคือ 3 ฉบับคือร่างหลักคือ ร่าง...พรบ คุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากการบริการสาธารณสุข พ.ศ.....
และร่าง....แก้ไขเพิ่มเติมพรบ. สปสช. และร่าง...แก้ไขเพิ่มเติม พรบ. ประกันสังคม
2) กระทรวง สธ.และ สปสช ไม่มีอำนาจหน้าที่ไปแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายของสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงานและกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง
เช่นการบังคับให้โอนเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลทั้ง 3 กองทุนมาเข้ากองทุนที่จะตั้งขึ้นใหม่ตามร่างกฎหมายนี้
3)การที่ผู้ยกร่างและเครือข่ายเสนอให้ยุบมาตรา41ในพ.ร.บ สปสช. ซึ่งเป็นบทที่ใช้เยียวยาผู้ป่วยที่ปฏิบัติมา10กว่าปีแล้ว และแพทยสภาและสหสภาวิชาชีพเห็นพ้องต้องกันให้ขยายขอบเขตมาตรา41เพื่อให้การคุ้มครองครอบคลุมประชากรทั้งประเทศไปแล้วนั้น เป็นการบีบบังคับให้ประชาชนไม่มีทางเลือกและต้องหันมา สนับสนุนร่าง กฎหมายใหม่ที่พยายามผลักดันนี้ เหมือนเป็นการจับประชาชนเป็นตัวประกัน
โดยได้มีการระบุในร่างเหตุผลและความจำเป็นในการยุบ มาตรา 41 นี้ว่า ได้มี ก.ม.ร่าง...พรบ คุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากการบริการสาธารณสุข พ.ศ.....เกิดขึ้นแล้วทั้งๆที่ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
4)ไม่มีการประชาพิจารณ์ผู้ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริงจากกฎหมายชุดนี้โดยเฉพาะในฝ่ายผู้ให้การรักษาพยาบาล ผู้ใช้แรงงานที่ใช้สิทธิประกันสังคมและข้าราชการทั้งประเทศ
5)สัดส่วนของกรรมการกองทุนทั้ง ตามมาตรา 7และตามบทเฉพาะกาลเป็นการล็อคสะเป็ค สำหรับพวกพ้องผู้ผลักดันกฎหมายและเครือข่ายอย่างชัดเจน คือกำหนดให้มาเป็นเสียงข้างมากในกองทุนเลย
6)การตั้งกองทุนใหม่นอกจากเป็นภาระของประเทศแล้วในร่าง...กฎหมายยังระบุเปิดโอกาสให้มีการจ่ายเงินสนับสนุนแก่บุคคล องค์กรและเครือข่ายพวกพ้องอย่างสะดวกสบายรวมทั้งยังกำหนดค่าบริหารจัดการ 10%(คิดเป็นเงินจำนวนมหาศาล) ที่ปราศจากการควบคุมตรวจสอบอีกด้วย
7)ร่าง...กฎหมายฉบับนี้ยังระบุชี้นำและสนับสนุนให้มีการฟ้องร้องทางอาญาแก่ผู้ให้การรักษาพยาบาลรวมทั้งผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุขทั้งประเทศ
และถึงแม้มีการลงนามในสัญญาประนีประนอมกันแล้วคดีความก็ไม่สิ้นสุดไป
อายุความฟ้องร้องไม่มีที่สิ้นสุด. โดยเขียนให้นับอายุความภายใน 3 ปีนับแต่วันที่รู้ผลกระทบแต่ไม่เกิน10ปีนับแต่วันที่เกิดผลกระทบ ซึ่งวันเริ่มนับอายุความไม่มีจุดที่แน่นอน อาศัยความรู้สึก เป็นนามธรรมและเปิดช่องว่างให้มีการบิดเบือนฉ้อฉลได้
9)อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกองทุนที่กำหนดไว้ ซ้ำซ้อนกับอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานในระบบสุขภาพของประเทศ ที่มีอยู่แล้วทั้งสิ้น นับตั้งแต่โรงเรียนแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานราชการต่างๆทางด้านสุขภาพ รวมไปถึงสภาวิชาชีพทางด้านสาธารณสุขทุกๆสภาวิชาชีพและยังรวมถึงกระทรวงแรงงานและกระทรวงการคลังด้วย
10) ร่าง..กฎหมายฉบับนี้ยังระบุให้อำนาจคณะกรรมการกองทุนซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มNGO และบุคคลนอกวงการสาธารณสุขสามารถลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุขได้ทั้งโทษจำและโทษปรับ
ผู้แทนแพทยสภาเห็นพ้องต้องกันในการคัดค้าน ร่าง...พรบ คุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากการบริการสาธารณสุข พ.ศ.....หรือกฎหมายในชื่ออื่นที่มีเนื้อหาทำนองเดียวกันนี้ รวมทั้งร่าง...กฎหมายชุดที่จะให้ยุบมาตรา 41 ในพรบ. สปสช รวมทั้งให้โอนเงินสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลจากทั้ง 3กองทุนมารวมกันเป็นกองทุนใหม่
พร้อมทั้งได้ยืนยันเจตนารมย์ดังกล่าวต่อหน้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
https://m.facebook.com/groups/113821408669795?view=permalink&id=1003008613084399&ref=bookmarkโดย. นพ. วิสุทธิ์ ลัจฉเสวี
วท.บ.,พ.บ.ว.ว. ศัลยศาสตร์
น.บ.(เกียรตินิยมอันดับ2)
น.ม.,บ.ป.ค.
ป.วิชาว่าความ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์