จังหวัดจันทบุรี ฉลองยอดส่งออกทุเรียนทะลุ 500,000 ตัน สร้างยอดขายได้มากเป็นประวัติการณ์ ผู้ว่าฯ เผยส่งออกผลไม้ปีนี้ดีเกินเป้า จนสามารถสร้างเม็ดเงินเข้าไทยได้หลายแสนล้านบาท ย้ำเกษตรกรต้องเดินหน้าควบคุมผลผลิตคุณภาพรับตลาดปีถัดไป ชี้เหลือทุเรียนรอเก็บเกี่ยวก่อนสิ้นสุดฤดูกาลอีกแค่ 60,000 ตัน
นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เผยถึงความสำเร็จของการส่งออกผลไม้จันทบุรีในปีนี้ ว่า ทะลุเป้าหมายที่วางไว้ โดยเบื้องต้นพบว่าสามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่และประเทศชาติจำนวนหลายแสนล้านบาท โดยเฉพาะผลผลิตทุเรียนในปี 2566 ที่สามารถสร้างมูลค่าการส่งออกได้มากเป็นประวัติการณ์ จากปริมาณผลผลิตคุณภาพที่มีจำนวนมาก
และยังทำให้ราคาผลผลิตตลอดฤดูกาลสูงต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ยังคงเหลือผลผลิตที่รอเก็บเกี่ยวอีกประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ปีนี้ จ.จันทบุรี มีพื้นที่ปลูกทุเรียนรวมกว่า 4 แสนไร่ และมีพื้นที่ที่ให้ผลผลิตได้ประมาณกว่า 3 แสนไร่ ส่วนแนวโน้มในปีหน้าคาดว่าผลผลิตจะมีเพิ่มมากขึ้นกว่าในปีนี้ จึงต้องขอให้เกษตรกรรักษาคุณภาพผลผลิตให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ซึ่งทางจังหวัดยังได้ แนะนำให้เกษตรกรเตรียมความพร้อมเรื่องแหล่งน้ำเพื่อป้องกันผลกระทบจากภัยแล้งที่อาจจะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ยังได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนทั้งราชการระดับกระทรวง และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องที่ร่วม บูรณาการความร่วมมือในการดูแล ควบคุม และกระจายผลผลิต ไปตลาดปลายทาง โดยเฉพาะตลาดทุเรียนในประเทศจีนจนไม่พบว่ามีปัญหาด้านการขนส่งแต่อย่างใด
อีกทั้งการขนส่งสินค้ายังเป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว และไม่มีปัญหาเรื่องตู้ขนส่งสินค้าล่าช้าจนทำให้ทุเรียนของเกษตรกรได้รับความเสียหาย พร้อมขอให้เกษตรกรรักษาคุณภาพผลผลิตให้เป็นที่ยอมรับเช่นนี้ตลอดไป ซึ่งหลังจากนี้หน่วยงานราชการจะเร่งให้ความรู้ต่อเกษตรกรในการพัฒนาตนเองทั้งด้านวิชาการ และรับผิดชอบต่อผลผลิต รวมถึงการผลิตนักคัด นักตัดที่มีความซื่อสัตย์ต่ออาชีพ
และในส่วนของผู้ประกอบการล้งรับซื้อและส่งออกจะยกระดับให้มีการควบคุมผลผลิตที่รับซื้อให้มีคุณภาพสร้างเพื่อสร้างชื่อเสียงแก่ประเทศชาติ และ จ.จันทบุรี รวมทั้งสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค เพื่อให้สามารถสร้างยอดขาย ยอดการส่งออก และผลผลิตได้ทะลุเป้าเช่นนี้ต่อไป
ด้านเกษตรจังหวัดจันทบุรี ได้เผยถึงจำนวนผลผลิตทุเรียนในปี 2566 ว่ามีประมาณกว่า 500,000 ตัน และที่ผ่านมาได้เก็บเกี่ยวไปได้แล้วกว่า 90% ยังเหลือที่รอการเก็บเกี่ยวอีกประมาณ 60,000 ตัน โดยเป็นทุเรียนที่อยู่ในพื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อน และสอยดาว ขณะที่ภาพรวมพื้นที่เพาะปลูกในปีนี้มีกว่า 400,000 ไร่ คาดว่าในเดือน ก.ค.นี้ทุเรียนจันทบุรีจะเก็บเกี่ยวได้หมด
ส่วนการบริหารจัดการน้ำในฤดูกาลถัดไปนั้น สำนักงานเกษตรจังหวัด ได้ขอความร่วมมือเกษตรกรในพื้นที่ให้สำรองแหล่งกักเก็บน้ำไว้ เพื่อรองรับผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดในงวดถัดไป
"ผลผลิตมังคุดจะสิ้นสุดฤดุการในช่วงสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ เช่นเดียวกับเงาะและลองกอง ที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวได้หมดเกือบ 100% แล้ว ซึ่งผลไม้ที่ส่งออกไปประเทศจีนในฤดูกาลนี้ ได้รับคำชื่นชมจากตลาดปลายทางเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นผลจากการที่ทุกฝ่ายช่วยกันควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด" เกษตรจังหวัดจันทบุรี กล่าว
ด้าน นายพงษ์ศักดิ์ นายด่านศุลกากรจังหวัดจันทบุรี เผยถึงภาพรวมการส่งออกทุเรียนในปีนี้ว่าได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมาก ซึ่งกรมศุลกากรได้เร่งดำเนินการตรวจสอบและซีนตู้ทั้งทางบกและทางเรือ จนทำให้การดำเนินงานผ่านไปด้วยดี
ขณะที่รายงานสถานการณ์การส่งออกในปี 2566 พบว่า การส่งออกทางเรือมีปริมาณที่ลดลง แต่การขนส่งทางบกมีจำนวนเพิ่มขึ้นเนื่องจากใช้เวลาเพียง 5 วัน ทุเรียนเดินทางถึงตลาดปลายทางแล้ว
ส่วน นายภานุวัช ไหมแก้ว ผู้ประกอบการส่งออกใน จ.จันทบุรี เผยว่า ใน ปี2566 ถือเป็นปีทองของ จ.จันทบุรี ที่มีการส่งออกทุเรียนไปประเทศจีนได้มากกว่า 500,000 ตัน ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต่างให้ความร่วมมือกับนโยบายของส่วนราชการในการควบคุมมาตรฐาน จนประสบผลสำเร็จ
18 มิ.ย. 2566 ผู้จัดการออนไลน์
