นายแพทย์สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านควบคุมป้องกันโรค กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะทำงานวิชาการ เปิดเผยถึง การจัดการปัญหาโฆษณายาเกินความจริง ทางสื่อสารมวลชน ว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกับ คณะทำงานวิชาการเฉพาะประเด็น อาทิ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย บุคลากรสาธารณสุข และเครือข่ายสมัชชาสุขภาพ เพื่อระดมสมองและให้ความเห็นต่อร่างข้อเสนอเชิงนโยบายสาธารณะ "การจัดการปัญหาโฆษณายาและอาหารที่อวดอ้างสรรพคุณทางยาที่ผิดกฎหมายทางวิทยุท้องถิ่น เคเบิ้ลทีวี และโทรทัศน์ดาวเทียม" ก่อนนำเข้าไปพิจารณาในสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 4 พ.ศ.2554 ในวันที่ 2-4 กุมภาพันธ์ 2555 ซึ่งได้ข้อสรุปเห็นชอบในหลักการ พร้อมร่วมเดินหน้ายกร่างแผนยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาโฆษณายาและอาหารที่อวดอ้างสรรพคุณทางยาที่ผิดกฎหมายทางวิทยุท้องถิ่น เคเบิ้ลทีวี และโทรทัศน์ดาวเทียม ภายในปีหน้า รวมทั้งปรับปรุงกฎหมายให้สอดรับกับสถานการณ์ของปัญหาร่วมสมัย กำกับสื่อโฆษณายาและอาหาร รวมทั้งผลิตภัณฑ์สุขภาพอย่างเคร่งครัด ส่งเสริมภูมิต้านทานให้ภาคประชาชนร่วมตรวจตรา ขณะเดียวกันก็ย้ำความสำคัญของสิทธิและเสรีภาพในการสื่อสาร
ภญ.ศรีนวล กรกชกร รองเลขาธิการ อย. ในฐานะรองประธานคณะทำงานฯ กล่าวว่า ทาง อย. พร้อมเป็นแกนหลักขับเคลื่อนงานนี้ ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญของหน่วยงานอยู่แล้ว เพียงแต่การดำเนินงานที่ผ่านมายังมีข้อจำกัดมาก ทั้งบุคลากรและกลไกการทำงาน ทำให้ อย. ไม่อาจควบคุมโฆษณายาและอาหารในสื่อใหม่ ๆ ได้ทันสถานการณ์ อีกทั้งจำนวนเว็บไซต์และวิทยุท้องถิ่นที่เปิดให้มีการอวดอ้างสรรพคุณสินค้าเกินจริงอย่างผิดกฎหมายก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กำลังของ อย. ที่มีอยู่ไม่อาจตามตรวจจับได้ดังที่ตั้งใจไว้ ดังนั้น การที่สมัชชาสุขภาพแห่งชาติเล็งเห็นความจำเป็นสำคัญในเรื่องนี้ และเห็นชอบให้เสนอเป็นหนึ่งในร่างระเบียบวาระในสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 4 ปีนี้ ย่อมถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ซึ่งหากร่างมตินี้ผ่านความเห็นชอบจากสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ และถูกผลักดันออกมาเป็นนโยบาย จะเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะที่ผ่านมา ช่องว่างการทำงานยังมีอยู่ ถ้าหน่วยงานที่มีอำนาจและเกี่ยวข้องกับปัญหานี้มาร่วมงานกัน ก็เชื่อว่าปัญหานี้น่าจะลดลงได้มาก เพราะจากร่างมตินี้ ได้ระบุชัดให้หน่วยงานรัฐที่มีอำนาจและภารกิจโดยตรงในเรื่องนี้ เข้ามาร่วมตรวจสอบช่องทางการสื่อสารด้วย ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีในการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุร่วมกัน
แนวหน้า 16 ธันวาคม 2554