ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องหมาหมา กับเจ้านาย... โดนใจสุดสุด‏  (อ่าน 1983 ครั้ง)

rabb

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 157
    • ดูรายละเอียด
(เนื้อเรื่องเป็นของฝรั่ง)

เจ้าของร้านขายเนื้อสดคนหนึ่งรู้สึกประหลาดใจที่หมาตัวหนึ่งมาที่ร้าน โดยในปากมันคาบแบงค์ 10 ดอลลาร์ และกระดาษเขียนข้อความว่า ขอซื้อไส้กรอก 12 ชิ้น กับ ขาแกะ 1 ขา ครับ

เขารู้สึกประทับใจความแสนรู้ของมัน ดังนั้นหลังจากเก็บเงิน 10 ดอลลาร์ และเอาไส้กรอก และขาแกะใส่ถุงแขวนที่ปากให้มันคาบไปแล้ว เขาตัดสินใจปิดร้านสะกดรอยตามมันไป

หมาตัวนั้นเดินไปตามถนนจนถึงทางม้าลาย มันก็วางถุงที่คาบไว้ลง แล้วยืนด้วยขาหลัง และยกขาหน้ากดปุ่มไฟสำหรับคนข้ามถนนแล้วก็คาบถุงต่อ รอจนไฟคนข้ามเขียว มันจึงข้ามไปยังป้ายรถเมล์อีกฝั่งหนึ่ง มันจ้องมองตารางเวลาเดินรถแล้วนั่งลงตรงที่นั่งรอ

สักพักมีรถเมล์คันหนึ่งมา มันเดินไปดูหมายเลขที่หน้ารถ แล้วก็กลับมานั่งรอต่อ อีกสักครู่ก็มีรถเมล์มาอีกคัน มันเดินไปดูหมายเลขรถอีก เมื่อเห็นว่าเป็นสายที่มันรออยู่ มันจึงขึ้นรถเมล์คันนั้น คนขายเนื้อถึงกับอ้าปากค้างทึ่งในความแสนรู้ของมัน แล้วรีบตามมันขึ้นรถคันนั้นไป

หลังจากรถวิ่งผ่านกลางเมืองออกไปยังชานเมือง เจ้าหมาแสนรู้ก็ลุกจากที่นั่ง เดินไปหน้ารถด้วยขาหลัง แล้วเอาขาหน้ากดกริ่งบนรถ เมื่อรถจอดมันก็ลง และเดินไปตามถนนจนถึงบ้านหลังหนึ่ง แล้วเลี้ยวเข้าไป คนขายเนื้อยังสะกดรอยตามมันไปอยู่ห่างๆ เช่นเดิม

เมื่อมาถึงประตูบ้านที่ปิดอยู่มันก็วางถุงไส้กรอกที่คาบไว้ลง แล้วถอยหลังมาตั้งหลักประมาณ 2-3 เมตร จากนั้นก็วิ่งเข้าชนประตูเต็มแรง มันพยายามอยู่ 2-3 ครั้ง แต่ประตูก็ยังเปิดไม่ออก มันเลยเดินอ้อมตัวบ้านไปที่หน้าต่างบานหนึ่งที่ปิดอยู่ และเอาหัวโขกที่หน้าต่างหลายครั้ง แล้วก็เดินอ้อมกลับมารอที่ประตู

สักพักประตูบ้านก็ถูกเปิดโดยเจ้าของหมาซึ่งเป็นผู้ชายหุ่นล่ำบึ้ก ซึ่งพอเปิดประตูเสร็จ เขาก็เริ่มเตะต่อย และตะโกนด่าเจ้าหมาแสนรู้ตัวนั้นทันที

ถึงตอนนี้คนขายเนื้ออดรนทนไม่ไหว เขารีบวิ่งเข้าไปห้ามเจ้าของหมา พร้อมกับถามว่า คุณเตะมันทำไมกัน มันเป็นหมาสุดอัจฉริยะเท่าทีผมเคยเห็นมาเลย ถ้าไปออกทีวีต้องดังแน่

เจ้าของหมาตอบสวนทันทีว่า คุณว่ามันฉลาดนักเหรอ
เชอะ รู้มั้ยว่านี้เป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์นี้นะที่มันลืมเอากุญแจบ้านติดตัวไปด้วย
............................................................................................
คติเตือนใจจากเรื่องนี้ คือ

เราอาจทำงานได้เกินความคาดหมายในสายตาผู้อื่น
แต่ก็ยังทำงานได้ต่ำกว่าเป้าหมายในสายตาของเจ้านายเราเสมอ