ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยเกี่ยวกับแนวโน้มของการรับตรงของธรรมศาสตร์ที่ผ่านมาว่า การรับตรงเป็นช่องทางที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีอัตราการแข่งขันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในปีการศึกษา 2554 มหาวิทยาลัยมีแผนรับนักศึกษาผ่านระบบสอบตรงจำนวน 1,572 คน แต่มีผู้มาสมัครทั้งสิ้น 28,847 คน อัตราส่วนการแข่งขัน 1 : 18.4 ในขณะที่ปีการศึกษา 2555 มีแผนรับนักศึกษาผ่านระบบสอบตรงจำนวน 1,674 คน แต่มีผู้มาสมัครทั้งสิ้น 42,140 คน มีอัตราการแข่งขันสูงถึง 1:25.2
อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวต่อว่า หากเจาะลงรายคณะ พบว่าอัตราการแข่งขันเพิ่มขึ้นเกือบทุกคณะและสาขาวิชา ทั้งสายสังคมศาสตร์และวิทยาศาสตร์ โดยคณะที่ได้รับความสนใจและมีอัตราการแข่งขันสูงมากคือ คณะสหเวชศาสตร์ สาขาเทคนิคการแพทย์ มีอัตราการแข่งขันสูงถึง 1:215 รองลงมาคือ คณะพยาบาลศาสตร์ อัตราการแข่งขัน 1:75 และคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า มีอัตราส่วนการแข่งขัน 1:72 สำหรับสายสังคมศาสตร์ เช่น คณะรัฐศาสตร์ สาขาการระหว่างประเทศ อัตราส่วนการแข่งขัน 1:44 คณะนิติศาสตร์ อัตราการแข่งขัน 1:18
ในส่วนคุณภาพของนักศึกษาที่ผ่านจากระบบรับตรงนั้น ศ.ดร.สมคิด กล่าวเพิ่มเติมว่า จากระบบรับตรง ช่วยให้คณะหรือสาขาวิชาต่างๆ สามารถคัดเลือกนักศึกษาที่มีคุณภาพเข้าศึกษาต่อ และไม่มีการย้ายคณะภายหลัง ตลอดจนลดอัตราการ retire ของนักศึกษาชั้นปีที่ 2 เนื่องจากนักศึกษาเหล่านี้มีความเข้าใจในสาขาที่ตนเรียน เช่น กรณีคณะรัฐศาสตร์ พบว่า นักศึกษาที่ได้รับคะแนนเฉลี่ยสูงสุดในทั้ง 3 สาขาวิชาของคณะ เป็นนักศึกษาที่ผ่านระบบรับตรงเข้ามา ส่วนสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร (SIIT) พบว่า การรับนักศึกษาผ่านระบบรับตรง ช่วยทำให้อัตราการ retire ลดลงอย่างมาก จากกรณีสถาบันรับผ่าน Admission ปกติ มีนักศึกษา retire ประมาณร้อยละ 15 ในขณะที่การรับตรงนักศึกษาผ่านมหาวิทยาลัย ทำให้สัดส่วนนักศึกษา retire ลดลงอยู่ที่ประมาณร้อยละ 5 เท่านั้น
สำหรับเยาวชนว่าที่นักศึกษาธรรมศาสตร์ ที่สามารถสอบเข้าศึกษาต่อ โดยเริ่มจากคณะยอดฮิตของสายสังคมศาสตร์ นายณภัทร ว่องธรรมวิชา จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต ซึ่งสอบได้คะแนนสูงสุดของสาขาบริหารรัฐกิจ คณะรัฐศาสตร์ บอกถึงการเลือกศึกษาต่อในสาขาบริหารรัฐกิจ กล่าวว่า ชอบทางด้านนี้และคิดว่าเหมาะกับตนเอง และธรรมศาสตร์เป็นมีชื่อเสียงในด้านรัฐศาสตร์อยู่แล้วประกอบกับผู้ปกครองสนับสนุนให้เรียนที่นี่ จึงตัดสินใจเลือกสอบเข้าที่ธรรมศาสตร์ ส่วนเทคนิคการเรียนให้ประสพผลสำเร็จนั้น ขอย้ำว่าการอ่านหนังสือสำคัญมาก ให้เวลากับการอ่านหนังสือมากที่สุด โดยแบ่งเวลากับการอ่านร้อยละ 70 และอีกร้อยละ 30 เป็นการทำแบบฝึกหัด 3-4 ปีย้อนหลัง ประกอบกับการเรียนพิเศษและการได้คำแนะนำจากรุ่นพี่ที่เรียนคณะนี้อยู่แล้ว ก็มีผลทำให้เราอ่านหนังสือได้ตรงจุด และรู้แนวข้อสอบมากยิ่งขึ้น
ส่วนในสายวิทยาศาสตร์ นายนภดล ศรีคง จากโรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง ที่สอบติดคณะสหเวชศาสตร์ สาขาเทคนิคการแพทย์ ซึ่งเป็นคณะยอดนิยมที่มีอัตราการแข่งขันสูงที่สุดในการรับตรงของธรรมศาสตร์ปีนี้ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่สอบติดในระบบรับตรงของคณะสหเวชศาสตร์ เพราะตนเองชอบและสนใจศึกษาในสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ และธรรมศาสตร์ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงจึงเลือกที่นี่ ส่วนเคล็ดลับในการเรียนให้ประสบความสำเร็จ ตนเองไม่ได้เรียนพิเศษกวดวิชาใดๆ เลย แต่เน้นความขยันค้นคว้าอ่านหนังสือให้ลึกและรอบด้านมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยอ่านจากหลายๆ สำนัก เพราะแต่ละสำนักมีการวิเคราะห์ที่แตกต่างกันไปซึ่งเป็นประโยชน์ ทำให้ได้ความรู้หลากหลายแง่มุม และครอบคลุมมากขึ้น และทำแบบฝึกหัด จากนั้นมาเน้นย้ำจากการเรียนในห้องเรียนอีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้สนใจค้นหาข้อมูลคณะต่างๆ ที่สนใจ หรือติดตามข่าวการรับสมัครเข้าศึกษาต่อ สามารถดูรายละเอียดได้ที่
www.reg3.tu.ac.thบ้านเมือง -- จันทร์ที่ 7 พฤษภาคม 2555