ผู้เขียน หัวข้อ: สธ.เสนอกฎหมาย เพิ่ม 3 พื้นที่ปลอดเหล้า  (อ่าน 1287 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9787
    • ดูรายละเอียด
ปลัด สธ.เผยเตรียมเสนอ 3 กฎหมาย เพิ่มพื้นที่ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้แก่ โรงงาน รัฐวิสาหกิจ และบนรถยนต์ทุกชนิด ตั้งแต่ 3 ล้อเครื่องขึ้นไป ทั้งคนขับ คนนั่ง...

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองประธานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้ได้รับมอบหมายจากนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประจำปี 2555 โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีตามพระราชบัญญัติ ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 รวม 4 ฉบับ ซึ่งประกาศดังกล่าวเป็นการขยายพื้นที่ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้มากขึ้น จากเดิมที่ห้ามขายและห้ามดื่มในวัด หรือศาสนสถาน สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ สถานที่ราชการ ปั๊มน้ำมัน สวนสาธารณะ และห้ามขายในหอพักนักศึกษา เพื่อสร้างความปลอดภัยในสังคม จากปัญหาการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งอุบัติเหตุจราจร ลดการเจ็บป่วย เช่น โรคตับแข็ง โรคจิตเวช รวมทั้งความรุนแรงในสังคมอื่นๆ โดยจะเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2555 เพื่อพิจารณาก่อนเสนอนายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศ ให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับที่ 1 ว่าด้วยการห้ามขายหรือห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ประกอบกิจการโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ในส่วนที่เป็นอาคาร สถานที่ หรือมียานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรที่มีกำลังรวมตั้งแต่ 5 แรงม้าขึ้นไป หรือใช้คนงานตั้งแต่ 7 คนขึ้นไป ไม่ว่าจะใช้เครื่องจักรหรือไม่ก็ตาม เพราะอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้แรงงานที่กำลังทำงานอยู่ในโรงงาน ยกเว้นพื้นที่สโมสรหรือที่พักอาศัย และกรณีโรงงานผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ขายตามปกติทางธุรกิจ และการดื่มที่เป็นขั้นตอนการผลิตหรือเพื่อรักษามาตรฐานการผลิต ซึ่งประกาศฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 180 วัน หลังจากลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ส่วนร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับที่ 2 ว่าด้วยการห้ามขายหรือห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นของรัฐ เช่นองค์กรมหาชน สาระสำคัญเช่นเดียวกันประกาศห้ามขายและห้ามดื่มในสถานที่ราชการที่เคยมีมาก่อน โดยกำหนดให้ขายได้เฉพาะในบริเวณที่จัดเป็นร้านค้าหรือสโมสร และให้ดื่มได้เฉพาะที่พักส่วนบุคคล สโมสร หรือการจัดเลี้ยงตามประเพณี โดยประกาศฉบับนี้ไม่บังคับใช้กับองค์การสุรา จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

นพ.ไพจิตร์ กล่าวอีกว่า สำหรับร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับที่ 3 ว่าด้วยการการห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรถยนต์ทุกประเภทตั้งแต่ 3 ล้อขึ้นไป ทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร เนื่องจากพบว่าอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้มีความรุนแรงขึ้น แม้จำนวนครั้งน้อยกว่าปี 2554 แต่จำนวนผู้เสียชีวิตกลับเพิ่มขึ้น สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากรถกระบะบรรทุกคนจำนวนมาก และคนขับและคนนั่งโดยสารดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการห้ามขายหรือห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทางสาธารณะเพื่อการจราจรทางบก ตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ได้แก่ ถนนสาธารณะ ไหล่ทาง ทางเท้า ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นว่าการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สาธารณะ มีกฎหมายตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกอยู่แล้ว และมอบให้สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไปทำความเข้าใจและศึกษาผลกระทบเรื่องการห้ามดื่มบนทางสาธารณะกับผู้เกี่ยวข้อง คือ ประชาชน และผู้ดูแล ผู้บังคับใช้กฎหมาย เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสรรพสามิต และกทม. และให้นำเข้าที่ประชุมครั้งต่อไป.

ไทยรัฐออนไลน์  5 พค 2555