ผู้เขียน หัวข้อ: สธ.ห้ามนำเข้ายาซูโด อ.ก.พ.ฟันวินัย16ขรก.  (อ่าน 1126 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9759
    • ดูรายละเอียด
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการสอบสวนวินัยข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการหายไปของยาสูตรซูโดอีเฟดรีน จาก รพ.ต่างๆ ว่า ที่ประชุมอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) มีมติให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ผอ.และเภสัชกร รพ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ เภสัชกรและเจ้าหน้าที่ รพ.อุดรธานี รพ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ รพ.ฮอด รพ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ รพ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และ รพ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ นอกจากนี้ยังสั่งสอบวินัยไม่ร้ายแรง ผอ.รพ.กมลาไสย ผอ.รพ.ฮอด และ ผอ.รพ.ภูสิงห์ รวมทั้งเภสัชกร รพ.กมลาไสย อีก 3 คน โดยมีข้าราชการที่ถูกสอบสวนวินัยทั้งหมด 16 ราย

สธ.ให้16ขรก.เข้าชี้แจงใน30วัน

ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวง สาธารณสุข กล่าวว่า หากผู้ถูกกล่าวหาปฏิเสธก็มีสิทธิ์นำหลักฐานมาชี้แจงภายใน 30 วัน โดยทั้งหมดจะถูกเอาผิดทางแพ่ง ส่วนการดำเนินคดีอาญาเป็นหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งรวมแล้วยาสูตรซูโดอีเฟดรีน หายไปจากระบบ รพ.9 ล้านเม็ด สำหรับปัญหาการทุจริตยาดังกล่าว เกิดขึ้นใน รพ.8 แห่ง จากทั้งหมด 845 แห่ง ซึ่งไม่ถึง 1% จึงไม่อยากให้ประชาชนกังวลใจมากนัก

ธาริตอ้างข้อมูลเจ๊ป.ได้จากพสิษฐ์

ขณะที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่า เจ๊ ป. ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดข้าราชการระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุข มีส่วนพัวพันกับการหายไปของยาว่า ตนได้รับข้อมูลจากนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษา รมว. สาธารณสุข ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีการจดบันทึกไว้จึงเป็นหลักฐานทางคดี และดีเอสไอ ได้รับข้อมูลจากทางอื่นๆ พบว่าข้อมูลตรงกัน อย่างไรก็ดี คงต้องตรวจสอบเชิงลึกเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

พสิษฐ์เดินหน้าตรวจสอบเข้ม

ขณะที่ นายพสิษฐ์กล่าวว่า จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่ายาสูตรซูโดอีเฟดรีน หายไปจากระบบ รพ.ในพื้นที่ กทม.เป็นหลักแสนถึงล้านเม็ด ซึ่งจะนำเรียนนายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข พร้อมกับแถลงข่าวต่อไป ทั้งนี้ คณะทำงานของตนจะ เดินหน้าตรวจสอบความผิดปกติเรื่องนี้อย่าง ต่อเนื่องต่อไป รวมทั้งมีการตรวจสอบซ้ำใน รพ.บางแห่ง ที่ยังคงพบพิรุธอยู่ด้วย

ยกซูโดฯออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท

ส่วน นพ.พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุออกฤทธิ์ มีมติซึ่งเป็นไปตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ คือให้ปรับสภาพยาสูตร ซูโดอีเฟดรีน เป็นยาควบคุมพิเศษ ยกระดับให้เป็นกลุ่มวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 ตาม พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ต้องมีการรายงานการใช้ ทำบัญชีสั่งจ่ายทุก 1 เดือน 4 เดือน และ 1 ปี โดย ห้ามนำเข้าเด็ดขาด มีเพียง อย.ที่สามารถ นำเข้าและอนุญาตให้ผลิต หรือนำเข้าได้เท่านั้น ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายสารซูโดอีเฟดรีนชนิดเดียว ที่ปัจจุบันอยู่ในกลุ่มวัตถุออกฤทธิ์

ยกเลิกผลิต-นำเข้าโทษเท่ายาบ้า

นพ.พงศ์พันธ์กล่าวอีกว่า ผลการประชุมครั้งนี้จะเสนอให้ รมว.สาธารณสุข ลงนามประกาศเพื่อให้มีผลบังคับใช้ ซึ่งจากนี้ไปยาสูตรซูโดอีเฟดรีน จะห้ามบริษัทผลิตและนำเข้าเด็ดขาด ส่วน รพ.ห้ามสั่งซื้อ และต้องแจ้ง อย.ถึงความต้องการยา โดยทาง อย.จะเป็นฝ่ายพิจารณา อย่างไรก็ดี ช่วงนี้ยังอนุญาตให้ รพ.ที่มียาดังกล่าวใช้จนหมด สต๊อกไปก่อน แต่ต้องเป็นไปตามแนวทางการควบคุมวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท

ภาค5ตรวจโกดังยาที่เชียงใหม่

ด้าน พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบช.ภ.5 นายวิชัย ไชยมงคล ผอ.สำนักป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ภาค 5 และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.เชียงใหม่ พร้อมคณะ เข้าตรวจสอบโกดังไม่มีเลขที่ หลังตลาดโพธิ์ทอง ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นโกดังของร้านขายยาอ้อมเมืองเภสัช ตั้งอยู่เลขที่ 419/19 ถนนมหิดล ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้รับแจ้งว่ามีการเก็บยาสูตรซูโดอีเฟดรีน ไว้เป็นจำนวนมาก

เจ้าของแจงเก็บยาไว้รอส่งคืน

จากการสอบสวนนางจันจิรา พลอาจ ผู้จัดการร้านขายยาอ้อมเมืองเภสัช และเภสัชกรเมธี พลอาจ เภสัชกร รพ.นครพิงค์ สามีของนางจันจิรา ให้การว่า ยาทั้งหมดอยู่ระหว่างรอให้บริษัทยามารับคืน หลังจากกระทรวงสาธารณสุข ประกาศงดจำหน่าย โดยทางร้านได้ติดต่อไปยังบริษัทยา แล้ว แต่ก็ยังไม่เข้ามาดำเนินการ พร้อมกันนั้น นางจันจิรา ได้แสดงหนังสือแจ้งคืนสินค้าส่งถึงบริษัท ไทยนครพัฒนา จำกัด และ หจก. บี.เอ็ม.ฟาร์มาซี ซึ่งระบุประเภทและจำนวนยากว่า 6,000 ขวด เอาไว้ โดยจะให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบต่อไป

ตร.อายัดซูโดฯชนิดน้ำ6พันขวด

พล.ต.ต.ชำนาญกล่าวว่า การตรวจค้น ครั้งนี้เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่า มีการเก็บยาสูตรซูโดอีเฟดรีน จำนวนมากเอาไว้ในโกดังแห่งนี้ เมื่อเข้าตรวจสอบก็พบยา ดังกล่าวแบบชนิดน้ำ ประมาณ 6,000 ขวด ซึ่งทางเจ้าของได้ชี้แจงว่าอยู่ระหว่างรอคืนบริษัทยา อย่างไรก็ดี ทางพนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง จะอายัดยาทั้งหมดไว้ตรวจสอบที่มาอย่างละเอียดอีกครั้ง

ส่วนนายวิชัยกล่าวเสริมว่า อยากจะขอความร่วมมือไปยังร้านขายยาทุกแห่ง ที่มียาชนิดนี้อยู่ในความครอบครองจำนวนมาก ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องทราบ เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ และป้องกันไม่ให้ยานี้เล็ดลอดไปสู่วงจรของขบวนการผลิตยาเสพติดได้

คาดมีคนขับรถพ่อค้ายามีเอี่ยว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเส้นทางยาสูตรซูโดอีเฟดรีน นั้น มีการตั้งข้อสงสัยว่าถูกพบใน อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดย ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนล้วนเป็นคนสันกำแพง โดยเฉพาะ 1 ใน 2 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับเป็นคนขับรถของผู้ค้ายาเสพติดหน้าใหม่รายหนึ่งซึ่งมีอิทธิพลในพื้นที่อย่างมาก และพบว่าอาจเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการผลิต ยาบ้าและยาไอซ์รายใหญ่อีกด้วย จึงถือว่าเรื่อง ยาสูตรซูโดอีเฟดรีนที่หายจาก รพ.และร้านขายยาต่างๆ นั้นมีเบื้องหลังที่สลับซับซ้อนมาก

ปปส.ภาค4-ตร.ลงพื้นที่ตามคดี

วันเดียวกัน นายสงคราม ขำต้นวงษ์ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 4 และคณะ เข้าพบตำรวจ สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณียาสูตรซูโด อีเฟดรีน หายไปจาก รพ.กมลาไสย กว่า 350,000 เม็ด โดยนายสงคราม กล่าวว่า คดีที่ รพ.กมลาไสย มีความเชื่อมโยงกับ รพ.อุดรธานี ซึ่งอาจถูกรวบรวมส่งให้ผู้ผลิตยาเสพติดตามแนวชายแดน ทั้งในภาคเหนือและอีสาน ทั้งนี้ หากมีเจ้าหน้าที่ไม่ว่าจะระดับใดเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดก็จะต้องถูกอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบด้วย

DSIตรวจความเชื่อมโยงยาหาย

เวลา 11.30 น. นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ขอรับสำนวนการสอบสวนคดียาสูตรซูโดอีเฟดรีน หายไปจาก รพ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ กว่า 250,000 เม็ด จากตำรวจ สภ.ภูสิงห์ ซึ่งนายอังศุเกติ์ กล่าวว่า ได้ประสานขอความร่วมมือตำรวจในการลงพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่ ส่วนการดำเนินการ ของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของ จ.ศรีสะเกษ สอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว คาดว่า น่าจะมีการรายงานให้ทางดีเอสไอในเร็ววันนี้

จ่อฟันผจก.แบงก์ไม่ส่งเอกสาร

อีกด้านหนึ่ง นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน รอง ผวจ.อุตรดิตถ์ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี นายธีระพงษ์ เอี่ยมอ่อน เภสัชกร และ นพ.สาโรจน์ ใจมุข ผอ.รพ.ทองแสนขัน เกี่ยวพันกับการลักลอบจำหน่ายยาสูตร ซูโดอีเฟดรีน ว่า ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.อุตรดิตถ์ ได้เข้าหารือเรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายธีระพงษ์ โดย ประสานไปยังผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ สาขา ทองแสนขัน แต่กลับไม่ดำเนินการให้ ซึ่งอาจเข้าข่ายกระทำผิดฐานขัดขวางการปฏิบัติงาน ของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ ได้เตรียมทำหนังสือ แจ้งไปอีกครั้ง หากยังเพิกเฉยไม่ให้ความร่วมมือก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ผวจ.บุรีรัมย์จ่อเอาผิดวินัย-อาญา

ที่ จ.บุรีรัมย์ นายคณิต เอี่ยมระหงษ์ ผวจ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งกำชับให้ ทุก รพ.เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบขั้นตอน การสั่งซื้อยาสูตรซูโดอีเฟดรีน หลังพบกรณีความผิดปกติที่ รพ.หนองกี่ ทั้งนี้ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ หรือบุคลากรใน รพ.แห่งใด มีพฤติกรรมซื้อยาดังกล่าวมาจำหน่ายโดยไม่ถูกต้อง ก็จะเอาผิดทั้งทางวินัย และอาญา


แนวหน้า  วันที่ 31/3/2012