ผู้เขียน หัวข้อ: สุดสงสาร "น้ององุ่น" ทารกเกิดมากะโหลกผิดรูป ครอบครัวยากจน วอนคนช่วยเหลือ  (อ่าน 91 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9760
    • ดูรายละเอียด
สุดสงสาร "น้ององุ่น" เด็กทารกกะโหลกผิดรูป เหตุน้ำในหัวระบายไม่ออกจึงดันจนกะโหลกบิดเบี้ยว ครอบครัวฐานะยากจน บ้านทรุดจนแทบอาศัยอยู่ไม่ได้

วันที่ 24 มิถุนายน 2566 มีรายงานว่า พบเด็กทารกกะโหลกระเบิดผิดรูป อยู่ที่บ้านเลขที่ 886 หมู่ 15 ต.คลองลานพัฒนา อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร มีนายมาร์ค พังทอง อายุ 29 ปี กับ น.ส.ทักษพร กองเมือง อายุ 22 ปี สองสามีภรรยาที่มีฐานะยากจนอาศัยอยู่กับลูกๆ อีก 2 คน ประกอบด้วย ด.ช.ชัยวัฒน์ อายุ 6 ขวบ และ ด.ญ.กันต์ฤทัย หรือ น้ององุ่น อายุ 20 วันที่เพิ่งคลอด

โดยบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านไม้เก่าแก่ฝาบ้านบางแห่งใช้สังกะสีเก่ามาตีปิดไว้ หลังคาเป็นสังกะสีที่มีรูทั่วไป บ้านทั้งหลังทรุดตัวจนเอียง ไม้หักจนพื้นเอียงเทไม่สามารถเดินเข้าไปได้ มีส่วนที่พออาศัยอยู่ได้พื้นที่แค่เพียงมุ้งกางได้เท่านั้น ภายในบ้านไม่มีทรัพย์สินมีค่าใดๆ แม้แต่เพียงชิ้นเดียว

แต่ที่น่าสงสารคือน้ององุ่น ที่เกิดมากะโหลกศีรษะบิดเบี้ยว กะโหลกด้านซ้ายยกสูงขึ้นมาเกยกับกะโหลกด้านขวา ส่วนที่หน้าผากมีสันนูนเป็นแนวยาวจากหว่างคิ้วยาวขึ้นไปจนถึงกลางศีรษะ ส่วนด้านหลังกะโหลกยุบเข้าไปจากท้ายทอยจรดถึงกลางศีรษะ ที่ศีรษะและท้องด้านขวามีผ้าพันแผลปิดไว้ บางครั้งก็ส่งเสียงดังลั่น น.ส.ทักษพร ต้องน้ำขวดมาป้อนให้ โดยมีคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านพากันมาดูด้วยความสงสารและไม่เคยเห็นเด็กในลักษณะนี้มาก่อน

น.ส.ทักษพร เปิดเผยว่า ไปคลอดที่โรงพยาบาลกำแพงเพชรเมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากที่คลอดออกมาพบว่าน้ององุ่นมีลักษณะดังกล่าว แพทย์ระบุว่าเป็นเพราะน้ำในศีรษะระบายไม่ออก จึงดันจนกะโหลกบิดเบี้ยว แพทย์จึงได้ผ่าตัดใส่สายยางระบายน้ำจากกระดูกสันหลังลงไปที่กระเพาะปัสสาวะ เพื่อระบายน้ำออกมาเป็นปัสสาวะแทน ถ้าไม่ผ่าตัดก็จะกลายเป็นเด็กหัวโต

แพทย์ยังบอกว่าอีกประมาณ 6 เดือนกะโหลกศีรษะอาจจะเข้าที่ก็ได้ และยังจะต้องผ่าตัดอีกครั้งเมื่ออายุ 13-14 ปี โดยช่วงนี้ต้องให้กินนมที่โรงพยาบาลให้มา และห้ามให้ดื่มน้ำอย่างเด็ดขาดเพราะไปเพิ่มน้ำในศีรษะ ซึ่งคนที่เป็นแม่เมื่อมองหน้าลูกทุกครั้งก็จะรู้สึกสงสารมาก

น.ส.ทักษพร ยังเล่าถึงเรื่องราวชีวิตที่ลำบากว่า บ้านที่พาน้องมาอยู่ตอนนี้เป็นบ้านของญาติกัน นอกจากบ้านที่ชำรุดทรุดโทรมใกล้จะพังแล้ว ยังจะต้องหาเงินซื้อแพมเพิร์ส ค่านมให้น้อง ก่อนที่จะไปคลอดตนปลูกเพิงขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ข้างถนนบริเวณหน้าบ้าน มีรายได้วันละประมาณ 300 บาทยังไม่หักต้นทุน ส่วนสามีมีอาชีพรับจ้างทั่วไปได้ค่าจ้างวันละ 250 บาท แต่ไม่มีงานมาแล้วประมาณ 2 เดือนจึงไม่มีรายได้เข้าบ้านเลย ช่วงนี้จึงลำบากมาก

ส่วนการจะพาลูกไปหาหมอก็ต้องยืมรถเพื่อนบ้านบ้าง บางครั้งก็ต้องเช่ารถไปบ้าง เฉพาะค่ารถค่าน้ำมันก็ตกครั้งละ 400-500 บาทแล้ว ไหนจะค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก จึงอยากขอวอนท่านผู้ใจบุญช่วยเหลือน้ององุ่น โดยสามารถบริจาคได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาคลองลานกำแพงเพชร ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี น.ส.ทักษพร กองเมือง หมายเลขบัญชี 0653437900

24 มิถุนายน 2566
ไทยรัฐ