รพ.รามา-จุฬาฯใจปํ้าบัตรทองรักษาฟรี
ยันไม่ร่วมนโยบายจ่าย 30 บาท nสปสช.เผยตั้งระบบร้องเรียน 24 ชม.
เมื่อวันที่ 31 ส.ค. รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวถึงการดำเนินตามนโยบายรัฐบาลในการร่วมจ่าย 30 บาท รักษาทุกโรคในโครงการหลักประกันสุขภาพ โดยมีเงื่อนไขต้องเก็บเฉพาะผู้ป่วยที่ได้รับยา และหากผู้ป่วยไม่ประสงค์จ่ายก็ให้เป็นไปตามสิทธิผู้ป่วย ว่า รพ.รามาธิบดีไม่ได้ต่อต้านนโยบายดังกล่าว ในการให้ประชาชนมีสิทธิร่วมจ่ายเงิน 30 บาท ในการรับการรักษาและรับยา แต่เพื่อเป็นการลดความยุ่งยากในการตรวจสอบสิทธิและลดความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้จ่ายและผู้ไม่ประสงค์ร่วมจ่าย ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ยกเว้นนั้น ที่ประชุมของรามาธิบดี จึงมีมติยกเว้นการจัดเก็บเงินดังกล่าว โดยใช้ระบบและมาตรฐานเดิมทุกอย่าง ทั้งนี้ ทาง รพ. จะนำรายได้ส่วนอื่นมาทดแทน ทั้งเงินบริจาคในมูลนิธิและลดต้นทุนการรักษาโดยรณรงค์ให้เกิดการใช้ยาอย่างเหมาะสม แม้ในแต่ละปีจะขาดทุนจากการรักษาในระบบหลักประกันสุขภาพถึงปีละ 10 ล้านบาทก็ตาม
ด้าน รศ.นพ.จิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า รพ.จุฬาฯ เป็น รพ.ขนาดใหญ่ และกำลังอยู่ระหว่างทำแนวปฏิบัติและสื่อสารให้กับผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งหากไม่ทันก่อนวันที่ 1 ก.ย.ที่จะมีการร่วมเก็บเงินร่วมจ่าย 30 บาท รพ.จุฬาฯ ก็จะเลือกสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชนก่อนและเพื่อให้ได้ประโยชน์มากที่สุด จึงจะยังไม่เก็บเงินดังกล่าว คืออาจต้องชะลอการเก็บเงินไปก่อน เพื่อให้ระบบเข้าที่กว่านี้
ด้าน นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในกฎหมายของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ไม่ได้ระบุชัดถึงข้อปฏิบัติของหน่วยบริการว่าต้องดำเนินการเก็บร่วมจ่ายหรือไม่ ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นจะผิดหลักกฎหมายหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ คงต้องพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ในวันที่ 1 ก.ย.ที่จะเริ่มเก็บเงินวันแรกนั้น ทาง สปสช.ได้เตรียมรับเรื่องร้องเรียน ผ่านสายด่วน โทร. 1330.