ผู้เขียน หัวข้อ: ชมรมแพทย์ชนบท(?) คุณทำอะไร?เพื่อใคร?  (อ่าน 1994 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9796
    • ดูรายละเอียด
ชมรมแพทย์ชนบท(?) คุณทำอะไร?เพื่อใคร?
« เมื่อ: 04 ธันวาคม 2013, 15:52:58 »






..................................................................




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 ธันวาคม 2013, 00:06:05 โดย story »

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9796
    • ดูรายละเอียด
ทีมกู้ชีพผู้ชุมนุมโวย "หมอชนบท" ตีข่าว สธ.ใส่เกียร์ว่างกระทบการทำงานภาคสนาม ทำผู้ชุมนุมมองอิงการเมือง เลือกข้าง ทั้งที่ช่วยรักษาทุกคนแบบไม่แบ่งแยก รับทำให้การช่วยเหลือประชาชนลำบากขึ้น ยันถูกแก๊สน้ำตาไม่จำเป็นต้องใช้น้ำเกลืออย่างเดียวตามที่เกมการเมืองใช้อ้างโจมตีกัน ใช้น้ำสะอาดล้างก็เพียงพอ ด้านเอราวัณจวกหมอชนบทตั้ง รพ.สนามไม่ประสาน สธ.ทำระบบสับสน

       วันนี้ (4 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวในสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะทางการเมืองของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ว่า ใส่เกียร์ว่างและจัดระบบการแพทย์ฉุกเฉินไม่ดีสำหรับการดูแลผู้ชุมนุม โดยเฉพาะแฟนเพจชมรมแพทย์ชนบทที่ออกข่าวเกี่ยวกับประเด็นนี้อย่างต่อเนื่อง เช่น นำรถพยาบาลต่างๆ มาจอดทิ้งไว้เฉยๆ ไม่เข้าไปในพื้นที่ มีคำสั่งไม่ให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) นำน้ำเกลือเข้าช่วยเหลือประชาชน ทั้งที่เป็นสิ่งจำเป็นมากจากการถูกแก๊สน้ำตา เป็นต้น ซึ่งขณะนี้มีการประกาศระดมทีมแพทย์จากภาคใต้ให้มาตั้งทีมแพทย์ภาคสนามที่สนามม้านางเลิ้ง
       
       นายสุทธิรัตส์ คุ้มสม เจ้าหน้าที่กู้ชีพ มูลนิธิร่วมกตัญญู กล่าวว่า การออกข่าวเช่นนี้โดยเฉพาะเรื่องนโยบายเกียร์ว่างไม่ให้ดูแลผู้ชุมนุมนั้น ส่งผลกระทบต่อการทำงานของพวกตนอย่างมาก เพราะทำให้ดูเหมือนพวกตนทำงานอิงการเมืองไปด้วย ผู้คนก็มองในแง่ลบ เมื่อเข้าไปในพื้นที่ก็ถูกด่า และทำให้คนมองว่าพวกตนทำงานแบบเลือกสีเลือกข้าง รวมถึงถูกมองว่าการนำรถพยาบาลเข้ามาในพื้นที่คือจะมีการสลายการชุมนุมแล้วใช่หรือไม่ หรือนำรถเข้ามาทำไมยังไม่มีคนเจ็บคนตาย เป็นต้น ซึ่งพวกตนก็ต้องพยายามอดทน และอธิบายว่า ไม่ใช่เพราะมีการสลายการชุมนุม แต่ทุกครั้งที่มีการชุมนมพวกตนต้องเข้ามาเตรียมความพร้อมปกติ เพื่อดูแลความเรียบร้อยและการเจ็บป่วยของประชาชน เพราะพวกตนก็เป็นคนไทยคนหนึ่งเช่นกัน
       
       "ผลกระทบจากสื่อออนไลน์ทำให้ถูกมองว่าอิงการเมือง เลือกสีเลือกข้าง ทั้งที่ไม่ใช่เลย พวกผมไม่เคยเลือกสี เลือกข้าง ช่วยคนทุกคนเหมือนกัน ไม่ว่าอยู่ฝ่ายใด ไม่มีการแบ่งแยก และขอให้อย่าคิดว่าเราอยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เราเป็นคนกลางมีหน้าที่ช่วยทุกคน เพราะหากมองเช่นนี้แล้ว การทำงานพื้นที่ชุมนุมก็ลำบากมากขึ้น มวลชนที่ไม่ทราบก็จะมองอีกอย่างหนึ่ง ทำให้การช่วยเหลือยากกว่าเดิม" นายสุทธิรัตส์ กล่าว     
       
       นายสุทธิรัตส์ กล่าวอีกว่า การออกข่าวเรื่องน้ำเกลืออีกเช่นกัน ขณะนี้มีแพทย์บางกลุ่มออกมาบอกว่าต้องใช้น้ำเกลือในการดูแลผู้ชุมนุมจากแก๊สน้ำตาอย่างเดียวนั้น ข้อเท็จจริงทีมแพทยืและพยาบาลในพื้นที่ยืนยันว่าไม่จำเป็น เพราะสามารถใช้น้ำสะอาดล้างแก๊สน้ำตาออกได้ และอาจให้ผลดีกว่าน้ำเกลือด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องการแย่งน้ำเกลือยอมรับว่าต้องมีการเก็บสำรองไว้เพื่อใช้รักษาผู้บาดเจ็บบ้าง แต่เมื่อประชาชนมาขอก็ต้องให้แต่ในปริมาณจำกัด เพราะต้องมีเหลือติดรถพยาบาลเอาไว้ เพราะมิเช่นนั้นจะถูกด่าว่ารถพยาบาลไม่มีน้ำเกลือ แล้วจะเข้ามาช่วยรักษาทำไม
       
       ด้าน นพ.เพชรพงษ์ กำจรกิจการ ผู้อำนวยการศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวว่า สธ.มีคำสั่งไม่ให้รถพยาบาลฉุกเฉินเข้าไปช่วยประชาชนในพื้นที่ชุมนุมนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะหน่วยเอราวัณ ยังเอารถออกช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บตลอดเวลา ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างศูนย์เอราวัณ กับสธ. ซึ่งขณะนี้มีหลายกลุ่มที่พยายามเข้ามาช่วยเหลือ โดยเฉพาะกลุ่มแพทย์ชนบท ทำให้เกิดความสับสนในการทำงาน เนื่องจากแพทย์ชนบทไม่ได้ขึ้นตรงหรือประสานงานกับ สธ.

ASTVผู้จัดการออนไลน์    4 ธันวาคม 2556