คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ชี้ทารก 3 แสนเสี่ยงโรคอื้อ เจริญเติบโตช้ากว่าปกติ คลอดก่อนกำหนด เหตุพ่อสูบบุหรี่-รุกรณรงค์บ้านปลอดบุหรี่...
เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่อาคารเรียนและปฏิบัติการรวมด้านการแพทย์และโรงเรียนพยาบาล รพ.รามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ร่วมกับมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ จัดแถลงข่าว ร่วมกันทำให้บ้านปลอดบุหรี่ : รับขวัญเด็กแรกเกิดบ้านปลอดบุหรี่" โดย ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่า แต่ละปีประเทศไทยมีเด็กเกิดใหม่ 6-7 แสนคน และจากสถิติล่าสุดพบชายไทยอายุ 25-44 ปี มีอัตราการสูบบุหรี่ร้อยละ 50.4 ประมาณการว่าเด็กเกิดใหม่ 3-3.5 แสนคน มีพ่อสูบบุหรี่
นอกจากนี้ จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ.2554 พบว่า ในจำนวนครัวเรือนไทย 7.8 ล้านครัวเรือน ที่มีสมาชิกในบ้านอย่างน้อย 1 คนสูบบุหรี่ ในจำนวนนี้ 6.2 ล้านครัว เรือนหรือร้อยละ 80 มีการสูบบุหรี่ในบ้าน หากคำนวณตามตัวเลขดังกล่าว จะเห็นว่ามีเด็กคลอดใหม่ที่มีคนสูบบุหรี่ในบ้านถึง 240,000-280,000 คน มูลนิธิจึงได้จัดโครงการรณรงค์ให้บ้านที่มีเด็กแรกเกิดเป็นบ้านปลอดบุหรี่ เพื่อเป็นของขวัญแก่ลูกที่เกิดใหม่ เพื่อลดอันตราของควันบุหรี่มือสองที่มีต่อลูก นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนชุดรับขวัญแรกเกิดให้แก่โรงพยาบาล ในเครือข่ายโรงพยาบาลปลอดบุหรี่ เพื่อช่วยรณรงค์ถึงพ่อแม่ที่มาฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล หากโรงพยาบาลใดสนใจ ติดต่อได้ที่โทร.0-2278-1828
รศ.นพ.พัญญู พันธ์บุรณะ หัวหน้าสาขาเวชศาสตร์มารดาและทารกปริกำเนิด คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า สตรีตั้งครรภ์ที่ได้รับควันบุหรี่ จะส่งผลให้ทารกในครรภ์มีโอกาสเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ คลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวน้อย และอาจพิการแต่กำเนิด เช่น ปากแหว่ง เพดานโหว่ ลำไส้ออกมาที่หน้าท้อง หัวใจพิการ ขาดออกซิเจนทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ อัตราการตายสูง และส่งผลระยะยาว เช่น เด็กสมาธิสั้น ภูมิแพ้ หอบหืด ติดเชื้อทางเดินหายใจ ความดันโลหิตสูง ซึ่งมีรายงานจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า ทั่วโลกมีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบเสียชีวิตจากการได้รับควันบุหรี่มือสอง แล้วทำให้เกิดการติดเชื้อในปอด ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับควันบุหรี่ในบ้านปีละ 165,000 คน ทั้งนี้ ในส่วนของ รพ.รามาธิบดี ได้ร่วมรณรงค์ให้บ้านที่มีหญิงตั้งครรภ์และมาฝากครรภ์ที่รพ.เป็นบ้านปลอดบุหรี่ โดยการให้ความรู้ และมอบชุดบ้านปลอดบุหรี่รับขวัญเด็กแรกเกิด
ด้าน นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะทั้งในอาคารและนอกอาคาร ยกเว้นที่บ้านและสนามบินสุวรรณภูมิ เรารณรงค์เกือบตายในที่สาธารณะ แต่ก็หันไปสูบที่บ้าน และจะพบว่าสาเหตุการตายในเด็กอันดับ 1 คือ ปอดบวม เฉลี่ยปีละเกือบพันคน ส่วนใหญ่ติดเชื้อทางเดินหายใจ ซึ่งก็มีผลมาจากการรับควันบุหรี่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขกำหนดเป็นนโยบายให้กรมอนามัยและกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมรณรงค์บ้านปลอดบุหรี่ และให้อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) รณรงค์ถึงในบ้าน พร้อมทั้งจัดทำคู่มือช่วยให้คนเลิกบุหรี่ และผู้ที่ต้องการขอคำปรึกษาแนะนำการเลิกบุหรี่ โทร.1600
