ผู้เขียน หัวข้อ: อธิบดีกรมควบคุมโรคมั่นใจสกัดการระบาดโรคคอตีบที่เลยได้  (อ่าน 1109 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด

เลย - อธิบดีกรมควบคุมโรคลงพื้นที่จังหวัดเลยตรวจสอบการปฏิบัติควบคุมและป้องกันโรคคอตีบ หลังเกิดการระบาดในพื้นที่จังหวัดเลยช่วง 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมระดมฉีดวัคซีนป้องกันโรค มั่นใจควบคุมการแพร่ระบาดโรคคอตีบได้แล้ว เหตุไม่มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม
       
       วันนี้ (12 ต.ค.) นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เดินทางมาที่โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เลย อ.วังสะพุง จ.เลย เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานการควบคุมโรคคอตีบที่กำลังระบาดในพื้นที่ จ.เลย โดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมโรคเดินทางมาตรวจรักษาและฉีดวัคซีนป้องกันในพื้นที่
       
       นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคมีมาตรการป้องกันควบคุมโรคคอตีบที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะที่โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ จ.เลย ที่มีการแพร่ระบาดของโรคคอตีบมาก่อนหน้านี้ โดยได้ตั้งทีมเจ้าหน้าที่เข้ามาสอบสวนโรคและสกัดการแพร่ระบาด นำเด็กที่ป่วยเข้าสู่กระบวนการรักษา และสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยการให้วัคซีนป้องกัน สามารถสกัดกั้นการระบาดของโรคอย่างได้ผล ไม่พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น
       
       จุดสำคัญประชาชนหรือผู้ที่เดินทางไปท่องเที่ยวตามแนวชายแดนต้องรู้จักป้องกันตนเอง มีสุขนิสัยที่ดีในการป้องกันโรค คือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด ป้องกันอย่าให้ยุงกัด ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุและเด็ก ควรรับการฉีดวัคซีนที่จำเป็น เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีน DPT (คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก)
       
       ผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัดควรสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงรู้จักสังเกตอาการผิดปกติ เช่น มีไข้สูง เจ็บในหลอดคอ ปวดศีรษะ น้ำมูกไหล อ่อนเพลีย ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที และควรติดตามข่าวสารสถานการณ์โรคในพื้นที่จะช่วยให้ปลอดภัยจากโรคต่างๆ ได้ ขณะเดียวกัน ในส่วนของครู ผู้ปกครอง และนักเรียน ต้องล้างมืออย่างถูกวิธี อย่างน้อยวันละ 8 ครั้ง เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคคอตีบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
       
       ด้านนายแพทย์วิวรรธน์ ก่อวิริยกมล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย กล่าวว่า จำนวนผู้ป่วยโรคคอตีบที่สำรวจพบแล้วเมื่อช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา พบผู้ป่วยหลายรายในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ เลย เพชรบูรณ์ และหนองบัวลำภู จุดแรกพบที่อำเภอด่านซ้ายจำนวน 33 ราย เสียชีวิต 2 ราย พบว่า 1 รายเป็นโรคประจำตัวด้วย และอีก 1 รายเป็นโรคตับอักเสบปนอยู่ด้วย
       
       จากการสอบสวนโรค 1 รายในจำนวนที่เสียชีวิตเป็นชาวเขาเผ่าม้ง บ้านตูบค้อ ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย นอกจากนี้ยังตรวจพบผู้ป่วยที่ อ.วังสะพุง จ.เลย จำนวน 13 ราย อ.ผาขาว 1 ราย และ อ.ภูหลวง 1 ราย ส่วนที่ อ.วังสะพุงพบเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2555 เป็นนักเรียนโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เลย ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เฝ้าระวังและให้วัคซีนป้องกันแล้ว พร้อมส่งข้อมูลไปยังครอบครัวของเด็กแต่ละคนด้วย และให้วัคซีนไปยังประชาชนทุกตำบลของอำเภอด่านซ้ายแล้วเช่นกัน
       
       อย่างไรก็ตาม จากการระดมทีมแพทย์ทั้งจากส่วนกลางและจังหวัดออกฉีดวัคซีนให้ผู้ป่วยในระยะเวลา 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม แสดงให้เห็นได้ว่าสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว