ผู้เขียน หัวข้อ: สธ.จัดบริการตรวจสุขภาพคนขับแท็กซี่ฟรีใน รพ.14 แห่ง  (อ่าน 957 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
สธ.จัดบริการตรวจสุขภาพคนขับแท็กซี่ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑลฟรีในโรงพยาบาลใกล้บ้าน 14 แห่ง ทั้งเรื่องสายตา โรคปอด โรคหัวใจ โรคตับ และโรคเรื้อรังที่จะมีผลต่อการขับรถ ตรวจวันแรกพบเป็นความดันโลหิตสูงกว่าร้อยละ 50…

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ศูนย์การขนส่งสาธารณะ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ นพ.ประดิษฐ สินธวงณรงค์ รมว.สาธารณสุข และ พญ.วิลาวัณย์ จึงประเสริฐ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดโครงการ “สุขภาพดี แท็กซี่ไทย” ตรวจสุขภาพผู้ขับรถแท็กซี่ ให้การดูแลสุขภาพให้เหมาะสมกับงาน ป้องกันโรคที่เกิดจากการขับรถ สามารถดูแลตนเองและสร้างความมั่นใจกับผู้โดยสาร

นพ.ประดิษฐ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีความห่วงใยสุขภาพอนามัยของกลุ่มคนขับรถแท็กซี่ ซึ่งเป็นบริการสาธารณะอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนทั่วไป และเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ที่มีความเสี่ยง ทั้งนี้ ปัญหาสุขภาพที่อาจมีผลต่อการขับขี่แท็กซี่ ได้แก่ การมองเห็นผิดปกติ ความจำผิดปกติ มีความดันโลหิตสูง เป็นโรคลมชัก โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไต รวมทั้งการใช้ยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึม หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมการแพทย์ จัดบริการตรวจสุขภาพฟรีผู้ขับรถแท็กซี่เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค.55 จนถึงเดือน พ.ค.56 ในโรงพยาบาล 14 แห่ง ได้แก่ รพ.นพรัตนราชธานี รพ.ราชวิถี รพ.เลิดสิน รพ.สงฆ์ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี สถาบันประสาทวิทยา สถาบันโรคผิวหนัง รพ.พระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี สถาบันโรคทรวงอก จ.นนทบุรี รพ.นครปฐม รพ.เมตตาประชารักษ์ จ.นครปฐม รพ.ปทุมธานี และ รพ.สมุทรปราการ ตั้งเป้าหมายตรวจ 10,000 คน ผู้ขับแท็กซี่สามารถติดต่อเข้ารับการตรวจสุขภาพในโรงพยาบาลที่สะดวก โดยใช้เพียงหลักฐานแสดงคือบัตรประจำตัวประชาชนและใบอนุญาตขับรถสาธารณะ หากพบว่ามีความผิดปกติ จะให้การดูแลรักษาต่อเนื่องในโรงพยาบาลใกล้บ้านตามสิทธิการรักษา  

ด้าน พญ.วิลาวัณย์ จึงประเสริฐ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กรมการแพทย์ได้จัดสัปดาห์รณรงค์ตรวจสุขภาพผู้ขับรถแท็กซี่ฟรี ที่ศูนย์การขนส่งสาธารณะ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระหว่างวันที่ 17–23 ธ.ค.55 ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ตั้งเป้าตรวจวันละ 600 คน โดยบริการตรวจโรคเบื้องต้น วัดความดันโลหิต ชั่งน้ำหนัก วัดรอบเอว เจาะเลือด ตรวจการทำงานของตับ ปอด ระดับน้ำตาล และไขมันในเลือด เอกซเรย์ปอด ตรวจสายตา พบแพทย์และให้คำปรึกษา ผลการตรวจเบื้องต้นในวันนี้พบว่าส่วนใหญ่มีปัญหาน้ำหนักตัวเกิน และมีความดันโลหิตสูง 152 รายจากที่ตรวจทั้งหมด 300 คน ส่วนใหญ่ไม่เคยรู้ตัวมาก่อน และเคยมีอาการปวดศีรษะ แต่เข้าใจว่าเป็นอาการปวดศีรษะทั่วๆ ไป

พญ.วิลาวัณย์ กล่าวต่อว่า ผลการศึกษาพบว่าปัญหาที่ผู้ขับรถแท็กซี่มักประสบบ่อยๆ อันดับ 1 เกิดตะคริวที่เท้า ร้อยละ 81 รองลงมาคือปวดหลัง ตึงที่คอ ปวดข้างลำตัว  ร้อยละ 74  และปวดศีรษะและตา ร้อยละ 73 ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ผู้ขับรถแท็กซี่ มีการหยุดพักทุก 2 ชั่วโมง โดยลุกออกจากที่นั่งเปลี่ยนอิริยาบถ ยืดเส้นยืดสาย บริหารด้วยท่าทางที่เหมาะสม ควรมีการพักผ่อนสายตา และการพักผ่อนที่เพียงพอด้วย โดยกรมการแพทย์ได้จัดพิมพ์คู่มือแจกผู้ขับรถแท็กซี่ที่มารับการตรวจทุกคน.


ไทยรัฐ