จากข้อมูลการสำรวจการสูบบุหรี่ในเยาวชนไทยอายุ 13-15 ปี เมื่อปี 2552 ของศูนย์เฝ้าระวังพฤติกรรมเสี่ยงโรคไม่ติดต่อ สำนักโรคติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า เยาวชนไทยมีแนวโน้มการสูบบุหรี่ที่สูงขึ้น และยิ่งน่าตกใจเมื่อพบว่า เยาวชนมีความเข้าใจว่าการสูบบุหรี่ทำให้มีเพื่อนมากขึ้น ซึ่งจุดนี้นับเป็นปัญหาใหญ่ที่สังคมต้องเร่งสร้างความเข้าใจ เพื่อไม่ให้ลุกลามต่อไป
ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมการยาสูบ (ศจย.) สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นองค์กรที่ มีความ ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวนี้อย่างมาก จึงได้ร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน จัดเสวนาเรื่อง "การควบคุมยาสูบในสถานศึกษา" ที่โรงแรมสยามซิตี้ กรุงเทพฯ เพื่อระดมความคิดเห็นในการหาแนวทางป้องกัน และควบคุมการบริโภคยาสูบในเยาวชนไทยให้ลดน้อยลง และเลือนหายไปในที่สุด โดยมี นักวิชาการ นักการศึกษา และ อาจารย์หลายท่านให้ความคิดเห็นเสนอแนะถึงหนทางการแก้ไขที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
รศ.ดร.สุรินธร กลัมพากร อาจารย์คณะสาธารณสุขศาสตร์ ม.มหิดล เผยผลการศึกษาโครงการ "การวิเคราะห์ข้อมูล สถานการณ์การใช้ยาสูบของนักเรียนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วประเทศ" ว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูล มีจำนวนกลุ่มตัวอย่างตั้งแต่ระดับประถมศึกษา ถึง ม.ปลาย ปีการศึกษา 2553 จำนวน 5,805,560 คน แบ่งเป็น ชาย 2,784,527 คน และหญิง 3,021,033 คน พบว่า มีเด็กที่เกี่ยวข้องกับสารเสพติด 67,000 คน เป็นชายมากกว่าหญิง และส่วนใหญ่อยู่ ม.ปลาย โดยพบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้มากที่สุด ... ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องหาทางแก้ไข และ หยุดยั้งการขยายตัว
อาจารย์อนงค์ พัวตระกูล รองประธานเครือข่ายครูนักรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า ยอมรับว่าเยาวชนไทยหันมาสูบบุหรี่มากขึ้น ซึ่งจากการติดตามการหาแนวทางช่วยเหลือ และแก้ปัญหาเด็กที่ติดบุหรี่ในสถานศึกษา ส่วนใหญ่พบว่าผู้บริหาร และครูยังให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหานี้น้อยเกินไป จึงฝากให้ทุกโรงเรียนหันมาให้ความสำคัญ เพราะเชื่อว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงจัง ปัญหานี้จะลดลงได้อย่างแน่นอน ... เป็นเรื่องที่ควรพิจารณาถึงตัวผู้บริหารอย่างจริงจัง และเด็ดขาด
ดร.ศิริวรรณ พิทยรังสฤษฏ์ ผู้อำนวยการ ศจย. กล่าวว่า ปัจจุบันเยาวชนไทยเริ่มสูบบุหรี่ขณะที่ยังอยู่ในวัยเรียน ทางโรงเรียนจึงควรจัดกิจกรรมให้เด็กได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพื่อให้เด็กไม่หันไปใช้เวลากับสิ่งเสพติด รวมทั้งบุหรี่ นอกจากนี้ความห่างเหินของครอบครัว ก็ทำให้เด็กหันไปทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นโรงเรียน และครอบครัวต้องใส่ใจ และสนใจในความสามารถพิเศษของเด็ก และจัดกิจกรรมที่เหมาะสมให้ หากทำได้เด็กคงหันไปหมกหมุ่นกับบุหรี่น้อยลง....ซึ่งจะต้องร่วมมือกันทำอย่างเร็วที่สุด
นางจุไรรัตน์ แสงบุญนำ รองปลัด ศธ. กล่าวว่า ที่ผ่านมา ศธ.ให้ความสำคัญกับปัญหานี้อย่างจริงจัง โดยมีคำสั่งไปยังสถานศึกษาทั่วประเทศในการควบคุมยาสูบในสถานศึกษา อาทิ โรงเรียนต้องติดป้ายห้ามสูบบุหรี่ มีการเข้าไปสำรวจนักเรียนที่อาจมีสารเสพติดปีละ 2 ครั้ง เพื่อเป็นการป้องปรามอย่างเข้มงวด และห้ามไม่ให้มีการซื้อขายบุหรี่ในสถานศึกษา โดยครู บุคลากรทางการศึกษา และภารโรง ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็ก อย่างไรก็ตามข้อเสนอแนะต่างๆ จากการเสวนาในครั้งนี้จะนำเข้าสู่ที่ประชุมผู้บริหารระดับสูงของ ศธ. เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป ...จะมีคำสั่งเพียงอย่างเดียวคงไม่พอแล้ว แต่ควรต้องมีการให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดด้วย
และในงานนี้ได้มีข้อเสนอแนะที่น่าสนใจเกี่ยวกับการจะทำให้ เด็ก หรือ เยาวชนที่หลงผิดเข้าไปอยู่ในวังวนของการสูบบุหรี่ สามารถหลุดออกมาจากวังวนอันชั่วร้ายนี้ได้ โดย มีการแนะวิธีช่วยลดความอยากสูบบุหรี่ด้วยมะนาว ที่ครูจะนำมาส่งเสริมให้เด็กนักเรียนสามารถลดการสูบบุหรี่ จนกระทั่งอาจจะสามารถทำให้เด็กนักเรียนเลิกสูบบุหรี่ได้ คือ หั่นมะนาวเป็นชิ้นเล็กโรยด้วยเกลือ แล้วให้เด็กอมมะนาวไว้ชั่วครู่ จากนั้นจึงค่อยๆ เคี้ยวจนหมด ต่อด้วยการดื่มน้ำตาม การกระทำเช่นนี้จะช่วยเด็กให้ลดความอยากสูบบุหรี่ได้มาก ทั้งนี้ เนื่องจาก มะนาวจะมีวิตามินซีที่จะช่วยลดสารนิโคตินในกระแสเลือดได้ ซึ่งจะทำให้อาการอยากบุหรี่น้อยลง และเมื่อดื่มน้ำตามมากๆ สารนิโคตินก็จะขับออกมาพร้อมปัสสาวะ
เป็นที่ประหลาดใจว่า แม้ที่ผ่านมาทุกหน่วยงานจะพยายามหาแนวทางแก้ไขปัญหาการสูบบุหรี่ในสถานศึกษามาอย่างต่อเนื่อง แต่ทว่าตัวเลขสิงห์อมควันในวัยเรียนกลับยังไม่ลดลง ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องหันหลังกลับมาทบทวนว่า การดำเนินการที่ผ่านมายังบกพร่องในส่วนใด และต้องแก้ไขอย่างไร เพื่อให้เด็ก ลด ละ เลิก และไม่เกี่ยวข้องกับบุหรี่อีก ซึ่งแม้จะดูเป็นเรื่องยาก แต่หากไม่เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ มั่นใจว่านักสูบหน้าใหม่คงจะเกิดขึ้นอยู่เกลื่อนเมือง
แนวหน้า 3 สิงหาคม 2554